First time leader เมื่อ Programmer ต้องมาเป็น Leader

แชร์ประสบการณ์ 9 สิ่งที่จะเจอเมื่อก้าวมาเป็น Leader ครั้งแรก

Phruek Kosonsuwiwat
2 min readSep 11, 2019

ผู้เขียนมี Job description เป็น Programmer มาหลายปี เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้รับการ Promote มาเป็น Team lead โดยที่ต้องก้าวขึ้นมาบริหารทีม Programmer ที่มีทุก Role ทั้ง New grad, Mid level และ Senior Level และนี่คือสิ่งที่ต้องเจอตลอดระยะเวลาของการเป็น Leader ครั้งแรกในชีวิต

1. งานหลักคุณจะไม่ใช่การ Coding อีกต่อไปแล้ว

ไม่มีผู้บริหารคนไหนโปรโมท Worker มาให้ทำสิ่งเดิมๆ ต่อจากนี้หน้าที่หลักคุณคือ Coach และ Facilitate คุณต้องมีหน้าที่ให้คนในทีมคุณทำงานได้ดีที่สุดโดยงานของคุณคือ ขจัดทุกปัญหาและอุปสรรคของทุกๆคนในทีมให้หมดไป ไม่ใช่การเขียนโค้ดให้ได้มากที่สุดอีกต่อไป

แต่..ถ้าคุณรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตัวคุณเลย แนะนำว่าให้ลองพูดคุยกับ Manager ของคุณดูครับ อาจจะพูดง่ายแต่นี่เป็นทางออกที่ตรงจุดที่สุด

2. ยากกว่าคุยกับคอม ก็คือคุยกับคน(และคุณจะต้องคุยกับคนเป็นหลัก!)

หลังจากที่คุณก้าวขึ้นมาในตำแหน่งนี้ skill หลักของคุณคือ คุย คุย คุย แล้วก็คุย ทั้งคนในทีม นอกทีม นอกแผนก นอกบริษัทหรือ กระทั่งลูกค้า ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการ promote มักจะมีฝีไม้ลายมือด้านเทคนิคค่อลที่ดี แต่สิ่งที่ยากสำหรับ Lead มือใหม่ก็คือการคุยกับคนนี่แหละ

วิธีการรับมือกับการคุยกับคนนั้นยาก และไม่มีหลักสูตรตายตัว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบุคคล สำหรับคำแนะนำสำหรับผู้เขียนก็คือ พยายามพูดคุยกับผู้ฟังด้วยภาษาที่ผู้ฟังเข้าใจง่าย อย่าใช้ศัพท์ที่ยาก หรือศัพท์เฉพาะ พยายามใช้โทนเสียงต่ำเมื่อต้องการคอลโทรล พยายามอย่าใช้ Emotional ถ้าไม่จำเป็น ส่วนเรื่องของเจรจาจะกล่าวในครั้งต่อไป

3. Leader ไม่ใช่ Boss จง Lead อย่าแค่ Command

สิ่งที่คนทั่วไปคาดหวังจาก Lead คือผู้นำกองทัพ ไปรบ ไม่ใช่เป็นคนที่อยู่แต่ในปราสาทและสั่งให้ลูกน้องไปเสี่ยงชีวิต วิธีการทำงานของคุณจะต้องไม่ใช่เพียงแค่สั่งงานทีมงานและรอผลลัพธ์อย่างเดียว แต่คุณต้องนำพวกเค้า กระโจนเข้าไปในงานที่คุณกำลังจะพาทีมไป ขจัดปัญหาหลักและพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณทำนั้นสำคัญจนพวกเค้าอยากที่จะร่วมมือกับคุณ

4. ทีมไม่ได้ดั่งใจ หรือเราไม่เข้าใจทีม

เป็นเรื่องปกติมากๆ เนื่องจากคนที่ถูกโปรโมทมักเป็นคนที่มีฝีมือดีในด้านการทำงาน แต่กับทีม คุณไม่สามารถคาดหวังให้ทุกคนเก่งหรือมีแนวคิดทุกอย่างใกล้เคียงกับคุณได้ ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องเข้าใจความต่างของคนในทีม เราทุกๆ คนย่อมมีจุดแข็งจุดอ่อนที่ต่างกันไป Leader ที่ดีต้องเค้นศักยภาพของทีมงานออกมาให้ได้มากที่สุดอย่างเหมาะสม

5. ปล่อยให้คนในทีมผจญภัยด้วยตัวเองบ้าง

พ่อแม่ต้องยอมปล่อยให้ลูกไปเจอกับสภาพแวดล้อมภายนอกบ้านบ้าง แทนที่จะกักไว้แต่ในบ้านเพราะกลัวลูกจะเจออันตราย

เช่นเดียวกับทีมงานของเรา ไม่ใช่แค่เชื่อใจในตัวทีมงานเท่านั้นบางครั้ง Lead ต้องปล่อยให้ทีมงานทำงานด้วยตัวเองบ้าง แม้ว่ามันอาจจะเสี่ยงที่จะ Fail ก็ตาม หน้าที่ของ Lead ก็คือ Practise และ Scope สิ่งที่ทีมจะไปเจอ ไม่ว่าจะเจรจากับคนภายนอก หรือทำงานที่ยังไม่มีใครเคยทำ

6. ใช้บทเรียนในตอนที่เราเป็นลูกน้อง

ในยามที่คุณเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชา มันเป็นปกติมากๆ ที่คุณจะวิพากษ์วิจารณ์หัวหน้าของคุณ เมื่อคุณมาอยู่ ณ​ จุดๆนี้แล้ว มันชัดว่า บางครั้งสิ่งที่หัวหน้าแย่ๆ ของคุณในวันนั้นทำ ก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไหร่ เพียงแต่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการปฎิบัติต่อสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง จงจำไว้ว่าถ้าเราไม่ชอบให้หัวหน้าทำกับเราแบบไหน จงอย่าทำสิ่งนั้นกับทีมงานคุณเช่นกัน

7. Don’t micro management or macro management

การบังคับให้ผู้อื่นทำตามที่คุณต้องการทุกอย่าง นับว่าเป็นการปิดกั้นทางความคิดเป็นอย่างมาก ไม่มีใครหรอกที่ชอบให้หัวหน้ามาจู้จี้จุ๊กจิกกับทุกอย่างในชีวิต ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้ายที่เดินออกจากที่ทำงาน และในทางกลับกัน จงอย่าออกคำสั่งที่กว้างเกินไป เช่น สั่งให้ไปทำงานชิ้นนึงมาโดยที่ไม่แนะนำแนวทางใดๆ และรอผลลัพธ์ที่คาดหวังว่ามันจะเป็นไปตามทุกอย่างที่คิด

8. จงฟังอย่างตั้งใจ ในสิ่งที่ลูกทีมพูด

เมื่อทีมงานของเราบ่นบางอย่าให้กับเราฟัง จงฟังอย่างตั้งใจ หยุดทำงานและฟังเค้าให้เค้ารู้สึกว่าเราอยากที่จะช่วยเค้า ซึ่งแม้ว่ามันอาจจะเกินสิ่งที่เราจะทำได้ไปมาก แต่เราอาจจะสามารถแนะนำเพื่อให้เค้ารับมือกับสิ่งเหล่านั้นได้ ส่วนในสิ่งที่เราสามารถแก้ไขได้ จงทำมันซะ อย่ารอให้สายเกินไป

9. อย่ารับปากในสิ่งที่ทำไม่ได้

คำพูดของเราไม่ใช่แค่ข้อความทั่วไปแล้ว สำหรับคนเป็นหัวหน้า การพูดสำคัญมาก การพูดผิด ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร แต่การพูดอย่างไม่ระมัดระวัง อาจจะสร้างผลกระทบใหญ่อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเมื่อ ”หัวหน้า” เป็นคนพูด

สิ่งที่ผู้เขียนจะแนะนำได้ก็คือ ก่อนจะพูดสิ่งใด จงคิดให้รอบครอบ คิดให้กว้าง อย่ารีบร้อนที่จะพูด จงคิดให้นาน แล้วคุณหรือใครๆ ก็จะไม่ต้องเจ็บปวดกับคำของคุณ :)

--

--

Phruek Kosonsuwiwat

Introvert software programmer who tries to find meaning of life